เกาะหวายปะการังรีสอร์ท เกาะหวาย จ.ตราด

      คุณเคยเห็นหอยมือเสือเป็นๆบ้างไหม? ถ้าไม่เคยเราแนะนำให้คุณมาดูที่นี่ เกาะหวายปะการังรีสอร์ท ที่พักในบรรยากาศดีๆ ณ เกาะหวาย กิ่งอำเภอเกาะช้าง จ.ตราด ต้องขอบอกเลยว่าที่นี่เป็นสถานที่แห่งความหลังของทางทีมงาน ท่องเที่ยว.com ท่านหนึ่ง(จริงๆแล้วเป็นความหลังของพี่ต้นหญ้าเว็บมาสเตอร์นั่นเอง)เนื่องจากทีมงานของเราท่านนั้นมีเพื่อนเป็นลูกชายหุ้นส่วนเจ้าของรีสอร์ทเก่า (รีสอร์ทรุ่นก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมาเป็นเกาะหวายปะการังรีสอร์ท) ก่อนที่จะขายหุ้นทั้งหมดให้แก่เจ้าของเกาะหวายปะการังรีสอร์ทคนปัจจุบันและจากความเป็นเพื่อนนั่นเองที่ทำให้ทีมงานท่านนั้นได้เคยมาสัมผัสบรรยากาศการท่องเที่ยวเกาะหวายตั้งแต่สมัยก่อนที่จะกำเนิดเกาะหวายปะการังรีสอร์ทแบบที่เป็นอยู่ในขณะนี้

     ต่อไปนี้เป็นคำบอกเล่าของพี่ต้นหญ้าทีมงานผู้ซึ่งเคยมีความหลังกับสถานที่แห่งนี้ “ ศาลากึ่งปูนกึ่งไม้ขนาดใหญ่ซึ่งยื่นลงไปในทะเลที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันของรีสอร์ทเนี่ยนะแต่ก่อน(ประมาณปี 2540 – 2541 พี่ต้นหญ้าจำปีไม่ได้ชัดเจน)เคยเป็นแค่ที่พักบ้านไม้ชั้นเดียวธรรมดามีหลายห้องนอนให้แขกเลือกพักได้ห้องละ 2 - 8 คนมีมุ้งให้กางนอนในห้อง เข้าไปนอนนะก็จะได้ยินเสียงคลื่นซัด...ซ่า...ซ่าทั้งวันทั้งคืน มองลอดระหว่างร่องพื้นไม้ลงไปก็จะเห็นพื้นน้ำที่มีปลาตัวเล็กๆลายดำคาดเหลืองที่เหมือนกับที่อยู่ในแนวปะการังในตอนนี้นั่นแหละ บางครั้งก็มีปลากะทุงปากแหลมๆตัวยาวๆว่ายมาข้างใต้บ้านเหมือนกัน ตอนนั้นนะจำได้ว่าตื่นเต้นมากเลยเพราะไม่เคยพักบ้านพักที่สร้างอยู่บนทะเลมาก่อน

      พ่อของเพื่อนพี่เค้าบอกว่าสร้างไว้ตั้งแต่ก่อนรัฐบาลออกกฎหมายห้ามการสร้างที่พักยื่นลงมาในทะเลก็เลยไม่ผิดกฎหมาย พี่ก็ไม่รู้นะว่าเจ้าของคนปัจจุบันมาซื้อแล้วมีปัญหากับฝ่ายบ้านเมืองเรื่องกฎหมายหรือเปล่าหรือว่าคิดยังไง?ถึงต้องรื้อบ้านไม้เก่าออกไปแล้วสร้างเป็นศูนย์เรียนรู้ทางทะเลกึ่งปูนกึ่งไม้สองสามชั้นแทน เห็นแล้วเสียดายเพราะปัจจุบันกฎหมายเค้าห้ามสร้างแล้วถึงอยากจะสร้างก็ทำไม่ได้ไอ้ที่พักยื่นลงไปในทะเลเนี่ย(ปกติหลักกฎหมายก็คือไม่สามารถออกกฎหมายเพื่อเอาผิดการกระทำย้อนหลังก่อนหน้าที่กฎหมายจะบังคับใช้ได้) อ้อ!!แล้วไอ้ทรายที่ชายหาดที่มันออกสีน้ำตาลแดงไม่ขาวน่ะมันเป็นมาตั้งแต่สมัยก่อนนู้นแล้วล่ะ ถึงหาดอื่นๆของเกาะนี้จะทรายขาวก็เหอะพี่คิดว่าคงเป็นมาตั้งแต่การก่อสร้างรีสอร์ทของรุ่นพ่อเพื่อนพี่แล้วมั้ง? ....ตอนพี่มาพักนะเห็นพ่อเพื่อนว่ายน้ำบ้างเดินบ้างกับพวกลูกจ้างขึ้นลงทะเลอยู่หลายรอบเลย เก็บอะไรดำๆไม่รู้มาใส่ตะกร้าพอถามเพื่อน เพื่อนพี่เลยเล่าให้ฟังว่า พ่อต้องมางมหอยเม่นจากแนวปะการังไปทิ้งเพราะหอยเม่นเยอะมากต้องระวังไม่ให้นักท่องเที่ยวที่มาดำน้ำดูปะการังว่ายไปโดนเข้า มีนักท่องเที่ยวคนนึง....น่าจะเป็นคนญี่ปุ่นนะขอหอยเม่นที่เค้าเพิ่งจับมาจะเอาไปทิ้งมาทุบๆหนามรอบๆออกแล้วผ่าล้างน้ำทะเลกินข้างในสดๆเลย ไอ้ส่วนที่ถูกผ่าเอาเนื้อออกไปแล้วนะมันก็ยังดุกดิกๆอยู่ขนาดถูกผ่าเป็น 2 ซีกแล้วนะ โห!!เห็นแล้วเสียวไส้จริงๆตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นของหายากราคาแพงขึ้นห้างนะไอ้หอยเม่นเนี่ย อา...พูดถึงหอย ที่นี่มีหอยมือเสือเยอะมานานแล้วล่ะยังไงอย่าไปจับมันล่ะระวังมันหนีบมือแล้วมันจะไม่ยอมปล่อยนะ ”(เนื่องจากพี่ต้นหญ้ายังมีเรื่องเล่าอีกยาว เราจึงขอตัดตอนจบไว้แค่นี้ก่อนที่จะให้ได้อ่านเรื่องพล่ามไม่รู้จักจบของพี่เค้า)

     สำหรับเกาะหวายปะการังรีสอร์ทนั้นมีจุดเด่นอยู่ตรงที่บริเวณชายหาดด้านหน้าที่พักนั้นน้ำทะเลใสค่อนข้างมากและภายใต้น้ำทะเลนั้นก็มีแนวปะการังที่กำลังได้รับการฟื้นฟูจากทางรีสอร์ทซึ่งมีหอยมือเสือทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่เต็มแนวปะการังไปหมด นอกจากนี้ก็ยังมีฝูงปลาหลากสีจำนวนมากซึ่งคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดีมาคอยว่ายวนเวียนอยู่ใกล้ๆในขณะที่คุณกำลังดำผุดดำว่ายดูปะการัง(ปลาบางตัวอาจจะตอดคุณด้วยเนื่องจากนึกว่าคุณเป็นอาหารอันโอชะของมัน) มีศาลาขนาดใหญ่ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางทะเลยื่นลงไปกลางทะเลหน้าชายหาด คุณสามารถที่จะขึ้นไปนั่งเล่นนอนเล่นรับลมเย็นและชมวิวในมุมสูง ณ ชั้นสองของศาลานี้ได้ ในช่วงเวลากลางคืนนั้นที่ศาลาและสะพานไม้จะมีการเปิดไฟประดับเมื่อรวมกับแสงไฟจากเรือตกปลาหมึกซึ่งเห็นเป็นกลุ่มอยู่ไกลๆแล้วสวยงามอย่างยิ่ง ที่สำคัญก็คือที่เกาะหวายปะการังรีสอร์ทนี้ยังมีบ่ออนุบาลเต่าทะเลซึ่งจะทำการปล่อยลูกเต่ากลับลงสู่ทะเลเมื่ออายุได้ประมาณ 1.5 -2 ปีอีกด้วยนับว่าเป็นรีสอร์ทที่น่ายกย่องในเรื่องของการช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติจริงๆครับ

     ส่วนข้อเสียที่สำคัญของทางรีสอร์ทก็คือ เรื่องของความสะอาดภายในห้องพักที่ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่นัก เตียงนอนที่เอียงซะจนนอนแล้วแทบจะกลิ้งหล่นลงมาจากเตียงเลยทีเดียว นอกจากนี้ขณะที่ทีมงานไปพักนั้นยังมีกลุ่มทัวร์ที่ส่งเสียงดังหนวกหู(ขอบอกว่าหนวกหูมากขนาดทีมงานพักบังกะโลที่อยู่เกือบไกลสุดของรีสอร์ทยังได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายชัดเจนมาจากศาลากลางน้ำเลยครับ)รบกวนการนอนจนถึงประมาณ 4 -5 ทุ่มหรือเที่ยงคืนก็ไม่ทราบได้และทางรีสอร์ทก็ไม่ได้ดำเนินการอะไรให้ชัดเจนเพื่อที่จะไม่ให้รบกวนแขกท่านอื่นๆ(ทางทีมงานได้โทรแจ้งผู้รับผิดชอบของรีสอร์ทแล้วก็ได้รับคำตอบว่า จะดำเนินการให้แต่ผ่านไปหลังจากแจ้ง 1-2 ชม.สถานการณ์ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม นอกจากนั้นขากลับขึ้นเรือออกจากรีสอร์ททีมงานก็ได้รับบริการสุดแสนประทับใจคือเจ้าหน้าที่บริการดึงหูกระเป๋าล้อลากของทีมงานท่านหนึ่งหักแต่ให้ทิปเป็นสินน้ำใจไปแล้ว....โอ๊ว ทวงคืนไม่ทันแล้ว) นอกจากนี้หาดทรายยังมีสีแปลกๆออกน้ำตาลหม่นๆไม่ขาวดูไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่นักด้วย 

     สรุปสิ่งที่ทีมงานคิดเกี่ยวกับเกาะหวายปะการังรีสอร์ทนั้น ให้คะแนนเกือบเต็มในเรื่องของบรรยากาศและหัวใจนักอนุรักษ์ของทางรีสอร์ท แต่หากเป็นเรื่องของความสะดวกสบาย ความสะอาดและความสงบแล้วล่ะก็ต้องขอคิดดูอีกทีครับ เพราะว่าทีมงานเราไปเจอแจ๊กพอตพอดี (สำหรับราคาค่าที่พักบังกะโลไม้ พัดลมธรรมดาอยู่ที่ 600 บาทต่อคืน ข้อมูล ณ เม.ย. 2551ครับ)